มะเร็งลำไส้ คืออะไร

มะเร็งลำไส้ คืออะไร สาเหตุ อาการ วิธีรักษา และวิธีป้องกันโรคมะเร็งลำไส้

ในปัจจุบันมีผู้คนล้มป่วยลงด้วยสาเหตุของมะเร็งเรียกได้ว่าเป็นอันดับต้นๆเลยทีเดียว โดยเกิดขึ้นอย่างเงียบๆโดยที่เราไม่รู้ตัวเลยว่ากำลังเผชิญกับโรคร้ายอยู่ อย่างโรคมะเร็งลำไส้ก็เป็นอีกหนึ่งในบรรดาโรคมะเร็งทั้งหลายที่สามารถเกิดขึ้นได้โดยที่เราไม่รู้ตัว โดยจะค่อยๆก่อตัวและแสดงอาการทีละนิด กว่าจะรู้ตัวก็มักสายเกินแก้

มะเร็งลำไส้คืออะไร

มะเร็งลำไส้ (Colon Cancer) นั้นเป็นโรคที่พบได้บ่อยมากในผู้ใหญ่ โดยเฉพาะในผู้สูงอายุที่มีอายุ 50 ปีขึ้นไป เกิดจากระบบการทำงานของเซลล์ในร่างกายทำงานผิดปกติ โดยเซลล์มีการแบ่งตัวมากขึ้นจนร่างกายไม่สามารถควบคุมได้จนกระทั่งเกิดเป็นเนื้องอกขึ้น แต่อย่างไรก็ตาม มะเร็งลำไส้นี้ก็สามารถทำการรักษาและป้องกันได้ ยิ่งตรวจพบเร็วเท่าไหร่โอกาสรักษาให้หายเป็นปกติก็มีมากขึ้นเท่านั้น เพียงแต่ส่วนใหญ่ไม่รู้ว่าตัวเองเป็นเพราะไม่มีอาการบ่งชี้ชัดเจนจึงชะล่าใจไม่มาตรวจแต่เนิ่นๆ จึงทำให้กว่าจะรู้ตัวอีกทีก็กลายเป็นมะเร็งระยะลุกลามแล้วแทบทุกราย

มะเร็งลำไส้

ลักษณะของมะเร็งลำไส้

สาเหตุของโรคมะเร็งลำไส้
สำหรับสาเหตุของการเกิดโรคมะเร็งลำไส้นั้นยังไม่ทราบแน่ชัด แต่มีปัจจัยเสี่ยงหลักๆ ของการเกิดโรคมะเร็งลำไส้ อาทิ
- อายุ โดยเฉพาะในผู้สูงอายุมากกว่า 50 ปีขึ้นไป (คนอายุน้อยก็สามารถพบโรคนี้ได้เช่นกัน)
- คนที่ชอบรับประทานอาหารประเภทไขมันสูง หรืออาหารแนวปิ้ง, ย่าง ทั้งหลาย
- ผู้ที่ไม่ค่อยรับประทานอาหารที่มีกากใยอย่างผัก, ผลไม้
- มีประวัติว่าคนในครอบครัวเคยเป็นโรคมะเร็งลำไส้มาก่อน
- ผู้ที่ชอบดื่มเหล้า เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทั้งหลาย หรือสูบบุหรี่
- ผู้ที่ไม่ออกกำลังกาย
- แม้กระทั่งผู้ที่เป็นโรคมะเร็งอยู่แล้วอย่างมะเร็งมดลูก, รังไข่ หรือเต้านม ก็มักจะลามไปจนกลายเป็นมะเร็งลำไส้ได้เช่นกัน

มะเร็งลำไส้

ผู้ที่ไม่นิยมรับประทานผักและผลไม้ที่มีกากใยสูง จะมีความเสี่ยงต่อการเกิดโรคมะเร็งลำไส้สูงตามไปด้วย

มะเร็งลำไส้

มะเร็งลำไส้ ทั้ง 4 ระยะ

อาการของโรคมะเร็งลำไส้
ในระยะเริ่มแรกนั้นผู้ป่วยจะไม่มีอาการใดๆ ที่บ่งบอกว่าเป็นมะเร็งเลย แม้จะมีสัญญาณเตือนแต่ก็ไม่ชัดเจน เพราะหลายๆ คนมักจะคิดว่าเป็นอาการปกติ ไม่ค่อยมีใครเอะใจว่าจะเป็นมะเร็งลำไส้ ซึ่งหากมีสัญญาณเตือนเหล่านี้ก็ลองไปตรวจกันดูก่อนเผื่อพบแต่เนิ่นๆ จะได้ทำการรักษาได้อย่างทันท่วงที
- รู้สึกว่าท้องอืดแน่นท้องแทบจะตลอดเวลา
- ถ่ายอุจจาระแล้วมีเลือดปนออกมา
- บางครั้งรู้สึกเหมือนถ่ายออกมาไม่หมด มักมีอุจจาระแข็งกับเหลวสลับกัน
- อุจจาระที่ถ่ายออกมามีก้อนเล็กลงกว่าเดิม
- คลื่นไส้ อาเจียน
- เบื่ออาหาร อ่อนเพลีย น้ำหนักลด
- มีอาการท้องผูกสลับการท้องเสีย
- ตัวซีดโดยไม่มีสาเหตุ

วิธีการรักษาโรคมะเร็งลำไส้
1. โดยการผ่าตัด เป็นวิธีขั้นพื้นฐานที่แพทย์จะทำการรักษาให้แก่ผู้ป่วย เพราะต้องทำการตัดเนื้อร้ายร่วมกับเนื้อดีบางส่วนในลำไส้ออกก่อน และหากเกิดเหตุสุดวิสัยที่ไม่สามารถต่อลำไส้ได้ ก็จะต้องมีการเปิดลำไส้ไว้บริเวณผนังหน้าท้อง เป็นการถ่ายอุจจาระทางหน้าท้องแทนทวารหนักพร้อมถุงรองรับอุจจาระ
2. โดยการให้เคมีบำบัด เป็นการฆ่าเชื้อเซลล์มะเร็งที่ยังหลงเหลืออยู่หลังจากทำการผ่าตัดไปแล้ว เพื่อให้แน่ใจว่าจะไม่มีเนื้อร้ายหลงเหลืออยู่ ทั้งนี้ราคาก็ค่อนข้างแพงสำหรับวิธีการรักษานี้
3. โดยการให้รังสีรักษา ส่วนใหญ่จะทำก่อนการผ่าตัดเป็นการลดขนาดของก้อนเนื้องอก หรืออาจทำหลังผ่าตัด ขึ้นอยู่กับการวินิจฉัยของแพทย์ผู้รักษา
4. รักษาโดยการ Biological Therapy เป็นการกระตุ้นให้ร่างกายสร้างภูมิคุ้มกันเพื่อทำลายเซลล์มะเร็ง

ทั้งนี้วิธีรักษาจะขึ้นอยู่กับสุขภาพของผู้ป่วย รวมทั้งตำแหน่งของมะเร็ง ขนาด และการลุกลามของโรคเป็นหลัก

มะเร็งลำไส้

การรักษามะเร็งลำไส้ด้วยการผ่าตัด

วิธีดูแลผู้ป่วยที่เป็นโรคมะเร็งลำไส้
หลังจากทำการรักษาผู้ป่วยมะเร็งลำไส้เรียบร้อยแล้ว ควรหมั่นไปตรวจตามที่แพทย์นัดเป็นประจำว่ามีเชื้ออีกหรือไม่ หรือมีโอกาสกลับเป็นซ้ำหรือเปล่า เป็นการติดตามผลหลังการรักษา ทั้งนี้ ต้องระมัดระวังไม่ให้ผู้ป่วยเข้าข่ายปัจจัยเสี่ยงอีก โดยการให้ผู้ป่วยออกกำลังกายเบาๆ อย่างการเดิน หรือแกว่งแขน และดูแลเรื่องอาหารการกินหลีกเลี่ยงอาหารไหม้เกรียมประเภทปิ้ง, ย่าง ตลอดจนเรื่องสูบบุหรี่หรือดื่มสุรา

มะเร็งลำไส้

ผู้ป่วยมะเร็งลำไส้ควรงดอาหารปิ้งย่างทุกชนิด

ดังนั้น จะเห็นได้ว่าโรคมะเร็งลำไส้เป็นโรคที่น่ากลัวและอยู่ใกล้ตัวเราเป็นอย่างยิ่งที่สามารถเกิดขึ้นได้กับมนุษย์ทุกคน เราจึงต้องหมั่นดูแลรักษาร่างกายของเราให้แข็งแรงอยู่เสมอ เพื่อป้องกันไม่ให้มะเร็งเข้ามากล้ำกราย หากเจ็บป่วยก็ควรรีบไปตรวจรักษาทันที ซึ่งหากเกิดมะเร็งลำไส้ขึ้นมาจะได้ทำการรักษาได้อย่างทันท่วงที

credit : www.เกร็ดความรู้.net